สะท้อนความสุขแห่งชีวิตอิสระ กับ The Village บางนา-วงแหวนฯ 2

จากเอกลักษณ์แห่งอดีตอันงดงามท่ามกลางความทันสมัยในยุคใหม่ เมื่อนำมาผสมผสานและจัดวางไว้ จึงพร้อมสะท้อนรายละเอียดแห่งดีไซน์ในแบบโมเดิร์นโคโลเนียลสไตล์อันร่วมสมัย ให้ลงตัวกับชีวิตแนวคิดใหม่ได้ทุกวัน

ด้วยรายละเอียดแห่งดีไซน์ในยุคคลาสสิก และเพิ่มเติมความทันสมัยในแบบวิถีตะวันตก จึงทำให้ The Village บางนา-วงแหวนฯ 2 โครงการวิลเลจทาวน์แนวคิดใหม่มาพร้อมอิสรภาพแห่งการอยู่อาศัยในสไตล์ที่แตกต่างและไม่เหมือนใคร กับรูปแบบงานสถาปัตยกรรมที่ย้อนสมัย แต่กลับคงความรู้สึกงดงามตามไลฟ์สไตล์เมืองยุคใหม่ในทุกมุม

โดยโครงการตั้งอยู่บนพื้นที่ บางนา กม.10 ซึ่งเป็นทำเลศักยภาพที่เชื่อมต่อหลากหลายเส้นทางให้เข้าสู่พื้นที่ของโครงการ หากใช้ถนนกาญจนาภิเษกที่ขับตรงมาจากเส้นรามอินทรา – รามคำแหง เมื่อข้ามถนนบางนามาแล้ว ก่อนถึงด่านเก็บเงินตรงเมกาบางนา ให้เบี่ยงซ้ายออกถนนคู่ขนานแล้วขับตรงมาเรื่อยๆ จะพบคอนโด A Space Me อยู่หน้าซอยทางด้านซ้ายมือ จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยแล้วขับตรงไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร จะพบ Sales Gallery ของโครงการอยู่ทางด้านซ้ายมือ

หากใช้เส้นทางถนนบางนา – ตราดขาออกไปชลบุรี ให้ขับตรงมาเรื่อยๆ จนเห็นป้ายเบี่ยงไปทางด่วนพระราม 2 ก่อนถึงด่านเก็บเงิน ให้เบี่ยงซ้ายออกถนนคู่ขนานแล้วขับตรงมาเรื่อยๆ จะพบคอนโด A Space Me อยู่หน้าซอยทางด้านซ้ายมือ จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยแล้วขับตรงไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร จะพบ Sales Gallery ของโครงการอยู่ทางด้านซ้ายมือ

ส่วนใครสะดวกใช้เส้นทางถนนบางนา – ตราดขาเข้า ก็ให้ขับตรงมาเรื่อยๆ แนะนำให้ออกสู่เส้นทางคู่ขนานก่อนถึงถนนกาญจนาภิเษกจะพบโชว์รูม ISUZU อยู่ทางด้านซ้ายมือ (ซอยมหาชัย) ให้เลี้ยวเข้าซอยแล้วขับไปตามทางประมาณ 1 กิโลเมตร จะพบ Sales Gallery ของโครงการอยู่ทางด้านขวามือ

นอกจากนี้โครงการ The Village บางนา-วงแหวนฯ 2 ยังเชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตได้อย่างลงตัว ด้วยทำเลที่ตั้งใกล้แหล่งช้อปปิ้งมอลล์ขนาดใหญ่อย่าง เมกาบางนา, อิเกีย, เซ็นทรัลบางนา, บุญถาวร, บิ๊กซี, เทสโก้ โลตัส, โฮมโปร รวมถึงโรงพยาบาลและมหาวิทยาลัยชั้นนำอย่าง รพ.ไทยนครินทร์, รพ. ศิครินทร์, ม.อัสสัมชัญ, ม.หัวเฉียว, ม.รามคำแหง 2 และร้านอาหารอีกมากมายบนถนนบางนา-ตราด อีกทั้งการเดินทางเข้า-ออกเมืองก็กลายเป็นเรื่องง่าย สามารถเข้าสู่ทางพิเศษบูรพาวิถีและวงแหวนรอบนอกตะวันออกได้โดยใช้เวลาเพียง 5 นาที และเข้าสู่สนามบินสุวรรณภูมิเพียง 20 นาที ยิ่งไปกว่านั้นยังรองรับกับความทันสมัยในอนาคต ด้วยพื้นที่ตั้งใกล้เคียงกับสถานีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีวัดศรีเอี่ยม (โครงการในอนาคต) และเมื่อมาถึงโครงการจะพบกับ Sales Gallery ซึ่งตกแต่งไว้สำหรับต้อนรับแขกผู้มาเยือนอย่างอบอุ่นและสวยงาม พร้อมสร้างบรรยากาศแห่งความผ่อนคลายด้วยโซฟานุ่มสบายและเฟอร์นิเจอร์ไม้ดีไซน์แบบเรียบง่าย

บริเวณทางเข้าโครงการ สามารถสัมผัสได้ถึงความสดชื่นรื่นรมย์ของแนวต้นไม้ธรรมชาติสีเขียวขจี ที่มาพร้อมระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง จากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย กล้องวงจรปิด CCTV และ Double Gate Security ทั้งประตูรั้วและไม้กระดก

เมื่อเข้ามาภายในโครงการ จะพบกับสวนสีเขียวขนาดใหญ่พร้อมมุมนั่งเล่นเพื่อสร้างความผ่อนคลายหลังจากการวิ่งออกกำลังกายในยามเช้า โดดเด่นด้วยสนามบาสเก็ตบอลสีสันสดใส สำหรับรองรับไลฟ์สไตล์ของผู้ที่ชื่นชอบการเล่นกีฬาเป็นชีวิตจิตใจ

และเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้อยู่อาศัย ด้วยคลับเฮ้าส์ที่มาพร้อมสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ห้องฟิตเนสและอุปกรณ์อันทันสมัย รวมถึงมุมโซฟานั่งชิลล์เพื่อผ่อนคลายภายในพื้นที่ส่วนกลาง


สำหรับโครงการ The Village บางนา-วงแหวนฯ 2 เป็นวิลเลจทาวน์แนวคิดใหม่ 2 ชั้น จำนวน 164 ยูนิต ซึ่งมาพร้อมพื้นที่ใช้สอย 134 ตารางเมตร หน้ากว้าง 5.7 เมตร ประกอบด้วย 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถส่วนตัว โดยตัวบ้านได้รับการออกแบบทางสถาปัตยกรรมสไตล์ Modern Colonial ซึ่งสื่อให้เห็นถึง ความคลาสสิกในวันวาน ที่สามารถผสมผสานกับความเรียบง่ายและทันสมัยได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยการดีไซน์ผนังบ้านให้เป็นอิสระไม่ติดใคร จึงทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกได้ถึงความเป็นส่วนตัว

ส่วนพื้นที่ใช้สอยภายนอกบ้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง มีการตกแต่งภูมิทัศน์ให้รายล้อมไปด้วยสีเขียวขจีของพรรณไม้นานาชนิด เพื่อสร้างความสดชื่นและร่มรื่นให้กับผู้อยู่อาศัย โดยบริเวณข้างบ้านซึ่งมีระแนงไวนิลที่ทางโครงการได้ต่อเติมไว้ ถูกดีไซน์ให้กลายเป็นมุมพักผ่อนหย่อนใจสำหรับนั่งอ่านหนังสือ หรือจิบชายามบ่าย ที่ช่วยสร้างความเพลิดเพลินใจให้กับสมาชิกทุกคนภายในบ้านได้เป็นอย่างดี

เมื่อเข้ามาภายในบ้าน ทางด้านขวามือจะเป็นห้องเอนกประสงค์ ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอนหรือห้องนั่งเล่นได้ตามต้องการ โดยภายในห้องนี้มีการนำกระจกเงามาตกแต่งบริเวณผนัง และดีไซน์ตู้เก็บของแบบบิลท์อินไว้ด้านข้าง ซึ่งออกแบบให้บานเปิดด้านบนเป็นกระจกใสสำหรับตั้งโชว์สิ่งของได้ จึงทำให้พื้นที่ภายในห้องดูกว้างขวางและโปร่งสบายมากยิ่งขึ้น

สำหรับพื้นที่บริเวณชั้นล่างมีการจัดสรรสเปซได้อย่างต่อเนื่องและลงตัว โดยส่วนรับประทานอาหาร สามารถจัดวางชุดโต๊ะเก้าอี้ขนาด 5 ที่นั่งได้อย่างสบายๆ และยังเชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่นข้างบ้านด้วยผนังกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ ซึ่งช่วยทำให้บรรยากาศภายในบ้านดูปลอดโปร่ง นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อกับมุมครัวแบบบิลท์อินได้อย่างลื่นไหล จึงทำให้การจัดเตรียม ปรุงอาหาร และเสิร์ฟได้อย่างสะดวกสบาย พร้อมฟังก์ชั่นในการจัดเก็บของครัวแบบบิลท์อินก็มีมากมายที่ตอบโจทย์พ่อบ้านแม่บ้านยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี และบริเวณด้านหลังของบ้านยังสามารถดัดแปลงเป็นครัวไทยได้ตามความต้องการอีกด้วย

ส่วนบริเวณใกล้เคียงกับมุมครัว เป็นห้องน้ำที่ออกแบบมาอย่างเรียบง่ายแต่ลงตัว ซึ่งแบ่งส่วนเปียกและแห้งออกจากกันด้วยม่านกั้นสำหรับอาบน้ำ พร้อมติดตั้งสุขภัณฑ์คุณภาพไว้ภายใน ถัดมาบริเวณใต้บันไดถูกออกแบบให้เป็นห้องเก็บของ สำหรับทางขึ้นไปชั้นบนมีการนำวอลเปเปอร์และภาพศิลปะต่างๆ มาตกแต่งผนังไว้เพื่อความสวยงามและเป็นจุดพักสายตา ซึ่งบริเวณชั้นบนของบ้านมีการแบ่งพื้นที่ใช้สอยไว้อย่างเป็นสัดส่วน ประกอบด้วย 1 ห้องนอน Master Bedroom พร้อม Walk-in closet , 1 ห้องน้ำ และ 2 ห้องนอน ขนาดกลาง

โดยห้องนอนขนาดใหญ่ หรือ Master Bedroom จะอยู่บริเวณส่วนหน้าของบ้าน ซึ่งมาพร้อมหน้าต่างและระเบียงชมวิว สำหรับการตกแต่งภายในเน้นโทนสีเทาเป็นหลัก ซึ่งเป็นสีสบายตาจึงช่วยสร้างสรรค์บรรยากาศแห่งความผ่อนคลายทำให้หลับสบายได้ตลอดคืน ด้วยขนาดของพื้นที่ใหญ่เป็นพิเศษ จึงสามารถจัดสรรสเปซภายในห้องให้เป็นมุม Walk-in closet ได้อีกด้วย

ถัดมาที่ห้องนอนขนาดกลาง ห้องแรกถูกดีไซน์ให้เป็นห้องนอนสำหรับเด็ก ตกแต่งด้วยโทนสีอบอุ่นของผิวสัมผัสลายไม้จากเฟอร์นิเจอร์บิลท์อินอย่างตู้เสื้อผ้าแบบ Walk-in closet โต๊ะเขียนหนังสือ และเตียงที่ยกสูงขึ้นจากพื้น โดยเพิ่มลูกเล่นให้กับบันไดทางขึ้น ด้วยการทำเป็นลิ้นชักที่สามารถจัดเก็บของได้จริง พร้อมสร้างสมดุลให้กับห้องนอนผ่านช่องรับแสงจากหน้าต่างขนาดใหญ่ จึงทำให้บรรยากาศภายในดูสว่างและปลอดโปร่ง

และห้องนอนขนาดกลาง ห้องที่สองมีการดีไซน์ให้เป็นห้องทำงานและห้องนั่งเล่นสุดชิลล์สำหรับสมาชิกทุกคนในครอบครัว โดยออกแบบมุมทำงานให้อยู่บริเวณหน้าต่างบานใหญ่เพื่อรับแสงจากธรรมชาติ และสามารถสร้างความผ่อนคลายเมื่อมองออกไปชมทัศนียภาพภายนอก สำหรับพื้นที่พักผ่อนด้านหลังมาพร้อมโซฟาเบดตัวยาวและกระจกเงาตกแต่งผนังบานใหญ่ ที่ช่วยรังสรรค์พื้นที่ภายในห้องให้ดูกว้างขวางมากขึ้น

นอกจากนี้ยังมีห้องน้ำซึ่งเชื่อมพื้นที่การใช้งานร่วมกันได้อย่างลงตัว โดยมีประตูทางเข้าถึง 2 ทางด้วยกันจากทางเดินด้านนอกและภายในห้องนอน Master Bedroom ซึ่งการตกแต่งภายในห้องน้ำยังคงเน้นฟังก์ชั่นการใช้งานแบบเรียบง่าย แต่ช่วยสร้างบรรยากาศให้ดูโปร่งสบาย พร้อมสเปซแยกส่วนแห้งและเปียกออกจากกันอย่างชัดเจนด้วยฉากกั้นอาบน้ำ

เมื่อชมไอเดียการตกแต่งพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านตัวอย่างเรียบร้อยแล้ว คราวนี้ลองมาดูแบบบ้าน Standard กันบ้างดีกว่าค่ะ พื้นที่บริเวณหน้าบ้านสามารถจอดรถได้ 2 คัน พร้อมประตูรั้วที่สามารถพับได้ โดยบริเวณสนามหญ้าข้างบ้านมีการติดตั้งระแนงไวนิลซึ่งทางโครงการได้จัดเตรียมไว้ให้เป็นพิเศษ นอกจากนี้บริเวณหลังบ้าน ยังสามารถดัดแปลงเป็นพื้นที่สำหรับครัวไทย และพร้อมรองรับกิจกรรมอื่นๆ ได้หลากหลาย


สำหรับพื้นที่บริเวณชั้นล่างของบ้านเป็นแบบเปิดโล่ง แต่มีการจัดสรรสเปซแต่ละส่วนได้อย่างลงตัวด้วยผนังกั้นพร้อมตกแต่งด้วยวอลเปเปอร์ทั้งหลัง

พื้นที่ภายในห้องน้ำชั้นล่าง ขนาดกะทัดรัดและมาพร้อมชุดสุขภัณฑ์คุณภาพดีจาก American Standard

เมื่อขึ้นมาบริเวณชั้นบนจะพบกับ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และ 1 ห้องนอนขนาดใหญ่ Master Bedroom

บรรยากาศภายในห้องนอนขนาดใหญ่ Master Bedroom ซึ่งอยู่บริเวณส่วนหน้าของบ้าน

บสุขภัณฑ์จาก American Standard ที่ติดตั้งไว้ภายในห้องน้ำชั้นบน โดยมาพร้อมฉากกั้นอาบน้ำแยกส่วนเปียกและแห้งออกจากกัน

บรรยากาศภายในห้องนอนขนาดใหญ่ Master Bedroom ซึ่งอยู่บริเวณส่วนหน้าของบ้าน

พบกับอิสรภาพบนพื้นที่แห่งความสุขของการอยู่อาศัย ด้วยวิลเลจทาวน์แนวคิดใหม่ที่สัมผัสได้ถึงความแตกต่างจาก The Village บางนา-วงแหวนฯ 2 ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 3.79 ล้านบาท (ข้อมูลราคา ณ วันที่ 9พฤศจิกายน 2559) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.areeya.co.th หรือ โทร. 1797 กด 41